Skip to content

ทำไมต้องเรียนหลักสูตร STEM

เพราะเรียนจบหลักสูตร STEM แล้ว สามารถขอทำงานต่อที่อเมริกา ได้ 3 ปี

STEM ย่อมาจาก
S = Science
T = Technology
E = Engineering
M = Mathematics

โดยปกตินักเรียนที่เรียนจบระดับปริญญาจากอเมริกาและถือวีซ่านักเรียน (F1) จะได้สิทธ์ OPT หรือ Optional Practical Training สิทธิ์ทำงานหลังเรียนจบ 12 เดือน โดยยังคงถือวีซ่านักเรียนอยู่ แต่หากนักเรียนเลือกเรียนหลักสูตรที่จัดว่าเป็น STEM designated จะขยาย OPT ได้อีก 24 เดือน ทำให้ระยะเวลารวมของ OPT = 36 เดือน หรือ 3 ปีนั่นเอง ซึ่งเงินที่ได้รับมานั้น คุ้มค่ากับการลงทุนไปเรียนมากๆ

ตัวอย่างสาขาที่จัดเป็น STEM

School of Business School of Engineering and IT School of Art and Science
Business Analytics
Finance
Marketing Analytics
Information System Management
Marketing (บางมหาลัย)
Management (บางมหาลัย)
Supply Chain Management (บางมหาลัย)
MBA (บางมหาลัย)
Mechanical Engineering
Civil Engineering
Electrical Engineering
Computer Engineering
Engineering Management
Computer Science
Artificial Intelligence
Data Science
และอื่นๆทุกสาขาในคณะนี้จัดเป็น STEM ทั้งหมด
Physics
Chemistry
Biology
Mathematics

สามารถรับฟังวิดีโอจากน้องเก่งที่เรียนจบ Master of Electrical & Computer Engineering ที่ University of Alabama at Birmingham และได้ OPT ที่บริษัท EZ Metrology

STEM คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร”

จุดกำเนิด STEM
STEM เป็นตัวย่อของชื่อ 4 สาขาวิชา ได้แก่ Science, Technology, Engineering, Mathematics เป็นการรวม 4 สาขาวิชานี้เข้าด้วยกัน แทนที่จะเรียนแยกจากกัน แต่หากนำทั้ง 4 วิชามาบูรณาการเข้าด้วยกันเพื่อการปรับใช้จริงในโลกปัจจุบัน ซึ่งระบบการศึกษานี้ถูกออกแบบขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากกระทรวงการศึกษาของอเมริกาค้นพบว่า มีนักเรียนเพียงแค่ 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สนใจในการทำงานสาขา STEM ในรัฐบาลของโอบาม่า ประธานาธิบดีคนเก่าของอเมริกาประกาศปี 2009 ถึงนโยบาย “Educate to Innovate” เล็งเห็นถึงความสำคัญของ STEM ที่มีต่อโลกปัจจุบัน และแรงงานของโลกที่ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่มาก อีกทั้งสหรัฐอเมริกาเองอยากเป็นผู้นำทางด้าน STEM ของโลกด้วย
ดังนั้นการส่งเสริมระบบการศึกษาให้นักเรียนเล็งเห็นความสำคัญของระบบการเรียน STEM จึงได้ถูกนำมาใช้ในนโยบายนี้ ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรครูอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนได้อย่างเพียงพอ จุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้นักเรียนมีประสิทธิภาพเทียบเท่าระดับสากลได้นั้นเอง
ทำไม STEM จึงเป็นสาขาที่น่าเรียนในอเมริกา
หลังจากกำเนิดนโยบายของ Obama ที่จะส่งเสริมการเรียนการสอนในสาขา STEM ให้มีมากขึ้นตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบันทำให้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับ STEM มากเพราะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวนมากในแต่ละปี โดยหน่วยงานกว่า 13 หน่วยงานของสหรัฐที่ให้ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมในเรียนการสอนในครั้งนี้อาทิ The Committee on Stem Education (CoSTEM) และกระทรวงศึกษาธิการของอเมริกา เป็นต้น
ในปี 2014 รัฐบาลของ Obama ยังลงเงินกว่า 3.1 พันล้านบาท เพื่อจ้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและเครื่องมือเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ทำให้มีการเปิดการสอนสาขาด้าน STEM และสาขาที่ใช้ STEM เป็นพื้นฐานในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยทั่วอเมริกา เพื่อให้เป็นตัวเลือกของนักเรียน จนปัจจุบันกลายเป็นสาขายอดนิยมทั้งในระดับชาติและระดับโลก
ความสำคัญของ STEM
ในปัจจุบันตลาดแรงงานระดับโลกต้องการแรงงานที่มีความรู้ด้าน STEM เป็นจำนวนมาก จากรายงานเว็บ STEM connector.org ได้ระบุไว้ว่าภายในปี 2018 ตลาดแรงงานต้องคนที่มีความรู้ด้าน STEM กว่า 8.65 ล้านคน ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่คลาดแคลนอย่างยิ่ง กระทรวงแรงงานของสหรัฐได้ระบุไว้ว่า ภายในปี 2018 ความต้องการของ STEM จะเพิ่มมากขึ้นดังต่อไปนี้

  • Computing – 71 percent
  • Traditional Engineering – 16 percent
  • Physical sciences – 7 percent
  • Life sciences – 4 percent
  • Mathematics – 2 percent

ประโยชน์จากการเรียน STEM
โดยปกติแล้วระบบการเรียน STEM จะถูกแทรกอยู่ในการเรียนการสอนของแต่ละชั้นเรียนอยู่แล้วเพียวแค่ไม่ได้ถูกเรียกอย่างชัดเจนอย่างในปัจจุบัน ซึ่งประโยชน์จากการเรียน STEM นั้นมีอยู่ในหลายสกิล ได้แก่

  • ทักษะการแก้ปัญหา
  • ฝึกกระบวนการคิดเป็นระบบ
  • การนำประโยชน์ไปใช้
  • ทักษะการสร้าง
  • การฝึกทำอะไรที่ได้ท้าทายความสามารถ


Source:  http://www.livescience.com/43296-what-is-stem-education.html และ สาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา สสวท.


ข้อมูลเพิ่มเติม เรียนต่อป.ตรี (Bachelor) อเมริกา คลิ๊ก!!
ข้อมูลเพิ่มเติม เรียนต่อป.โท (Master) อเมริกา คลิ๊ก!!

ตัวแทนของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ บริการฟรีทุกขั้นตอน Tel. 02-129-3214, 091-742-5900 สมัครเรียน สมัครหอพักของมหาวิทยาลัย จองตั๋วเครื่องบิน รถรับ-ส่งสนามบิน รวมถึงเตรียมเอกสาร กรอกใบสมัคร On-line และทำการนัดหมายกับสถานฑูต อเมริกา แคนาดา ให้ฟรี
Back To Top