สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกอยู่เป็นจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นอาจเป็นมหาวิทยาลัยในฝันของน้องๆทุกคน
วันนี้พี่ๆ Education For Life ได้รวบรวมกลุ่มมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อ Ivy League เราไปดูกันค่ะว่า ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร และมีมหาวิทยาลัยอะไรบ้าง…
Ivy League เป็นการรวมกลุ่มของมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงโดดเด่นทางด้านวิชาการจำนวน 8 แห่งทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1954 โดยจุดประสงค์เดิมเพื่อการรวมกลุ่มทางด้านกีฬา ทุกมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายที่จะต้องควบคุมมาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้ติดอันดับโลก
จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นที่ทราบกันทั่วโลกของกลุ่มมหาวิทยาลัย Ivy League คือการคัดเลือกนักเรียนที่ยากมากๆ เพราะมหาวิทยาลัยต้องการคนเก่งที่มีความสามารถโดดเด่น และสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยปกติมหาวิทยาลัยรับนักเรียนเพียงแค่ 10% จากยอดสมัครรวมทั้งหมด
มหาวิทยาลัย Ivy League กับการจัดอันดับจากของสหรัฐอเมริกา และระดับโลก
Ivy League | National Ranking (U.S. New & Report) |
QS World University Rankings 2016 |
---|---|---|
Brown University | 14 | 49 |
Columbia University | 4 | 22 |
Cornell University | 15 | 17 |
Dartmouth College | 12 | 158 |
Harvard University | 2 | 2 |
University of Pennsylvania | 9 | 18 |
Princeton University | 1 | 11 |
Yale University | 3 | 15 |
Brown University เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่รับนักเรียนโดยปราศจากข้อผูกมัดทางศาสนา นอกจากนั้นแล้วยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในเครือ Ivy League ที่ก่อตั้งคณะวิศกรรมศาสตร์ ในปีค.ศ. 1847 ปัจจุบันมีนักเรียนในระดับปริญญาตรี 6,200 คน ปริญญาโท 2,000 คน นักเรียนแพทย์ 490 คนและบุคลากรของมหาวิทยาลัยอีกกว่า 700 คน มหาวิทยาลัยเปิดสอนกว่า 100 สาขาในระดับปริญญาตรีและ 50 สาขาในระดับปริญญาโท ทำให้ทั้งมหาวิทยาลัยมีนักเรียนจากทุกรัฐของอเมริกาและจากหลายประเทศทั่วโลก
Brown University มีชื่อเสียงในเรื่องกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมและกิจกรรมเพื่อชุมชนที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นทุกปีภายในแคมปัสเพื่อให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมรวมกัน หากพูดถึงการรับนักเรียนเข้าของมหาวิทยาลัยใน Ivy League มีความยากมากๆทุกแห่ง
ปัจจุบันมีศิษย์เก่าจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ Emma Watson นางเอกสาวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ Ted Turner เจ้าของสำนักข่าวประจำสหรัฐอเมริกาอย่าง CNN อีกด้วย
Columbia University ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลายของเชื้อชาติที่นอกจากจะมีนักเรียนจากทั่วทุกรัฐในอเมริกาแล้ว ยังมีนักเรียนจากทั่วโลกอีกกว่า 90 ประเทศ และมีนักเรียนเกือบครึ่งเป็นนักเรียนผิวสี มหาวิทยาลัยมีกองทุนสนับสนุนเงินลงทุนจำนวนมากที่พร้อมช่วยเหลือนักเรียนเพราะมหาวิทยาลัยเชื่อว่า เงินจะต้องไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนของนักเรียน
Cornell University มีจุดประสงค์เพื่อสอนในทุกสาขาวิชาตั้งแต่วิทยาศาสตร์ไปจนถึงศิลปศาสตร์ จากทั้งทฤษฏี และการประยุกต์ ในปัจจุบันเปิดสอนทั้งสิ้น 7 โรงเรียนในระดับปริญญาตรี และ 7 โรงเรียนในระดับปริญญาโท
Cornell University มีชื่อเสียงทางด้านวิชาการในหลากหลายด้ายจากการทำวิจัยต่างๆของคณาจารย์และ นักเรียน ปัจจุบันมีนักเรียนปริญญาตรีทั้งสิ้น 14,000 คน ระดับปริญญาโทอีก 7,000 คนจากทั่งอเมริกาและทั่วโลก มีศิษย์เก่าทั้งสิ้น 245,000 คน มีศิษย์ที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก
Dartmouth College ให้ความสำคัญกับการสอนเป็นพิเศษ เพราะตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ควบคุมการสอนของมหาวิทยาลัยโดยให้อาจารย์เฉพาะทางสอน และยังเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่จะสอนนักเรียนได้ ซึ่งอาจารย์จำนวนมากของมหาวิทยาลัยเป็นนักวิชาการตัวท็อปของประเทศทั้งสิ้น
Dartmouth College เป็นที่รู้จักกันในเรื่องประเพณีที่มหาวิทยาลัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการส่งเสริมนักเรียนให้มีสปิริตของการเชียร์กีฬา มีประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ Big Weekends การจัดปาร์ตี้ประจำมหาวิทยาลัยในสุดสัปดาห์ เทอมละ 1 ครั้งเพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลายจากการเรียน
Harvard University ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักบวชชื่อ Puritanism ที่อพยพมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งจุดประสงค์ในตอนนั้นตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่ศาตนาตามลัทธิของตนเอง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Harvard University เพราะต้องการให้เกียรติแก่ John Harvard นักบวชท่านนึง
Harvard University มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพการศึกษาทางด้านวิชาการ และคุณภาพของคณาจารย์ของ Harvard University ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยได้ชื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งมหาวิทยาลัยได้เงินกองทุนสูงที่สุดของโลก ด้วยเงิน 34.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
University of Pennsylvania มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ พาณิชยศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และสถาปัตยกรรม ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 24,599 คน และคณาจารย์อีกกว่า 4,127 คน
University of Pennsylvania ที่มีแลนด์มาร์คสำคัญเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น สมาคมของนักเรียน, Business School, Medical school ขึ้นเป็นครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา
University of Pennsylvania ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับต้นๆของประเทศ โดยเฉพาะ Business School ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของประเทศมาโดยตลอด โดยภาพรวมแล้ว University of Pennsylvania ขึ้นชื่อให้เป็นมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐเลยทีเดียว
Princeton University เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อันดับที่ 4 ของสหรัฐอเมริกา เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี และโทในสาขา Humanities, Social Sciences, และ Engineering
Princeton University มีบุคลากรที่มีความสามารถได้รับรางวัลโนเบลหลายคน เช่น นักเคมี Tomas Lindahl, Osamu Shimomura นักนิเวศวิทยา เป็นต้น ประธานาธิบดี James Madison และ Woodrow Wilson ก็เป็นศิษย์เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมี Jeff Bezos เจ้าของ Amazon และอีกหลากหลายคน
Yale University สาขาที่ยอดนิยมได้แก่ Political Science, History, Economics, Psychology, Biology นอกจากนั้นแล้วยังเป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในหลักสูตรด้านดนตรี
Yale University ปัจจุบันมีโรงเรียนทั้งสิ้น 14 โรงเรียน ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอก มีห้องสมุดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในสหรัฐ รวบรวมหนังสือและงานวิจัยไว้จำนวนมาก
มีการคัดเลือกที่ยากมากๆ น้องๆที่สนใจควรเตรียมตัวหาข้อมูลการรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 2 ปีก่อนการเข้าเรียนค่ะ
มีค่าเรียนที่แพง แต่ก็มีทุนให้จำนวนมากเช่นกัน
มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งไม่มีตัวแทนในประเทศไหนเลยทั่วโลก นักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนที่นี้จำเป็นต้องทำเรื่องติดต่อเรียนด้วยตัวเองเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม เรียนต่อป.ตรี (Bachelor) อเมริกา คลิ๊ก!!
ข้อมูลเพิ่มเติม เรียนต่อป.โท (Master) อเมริกา คลิ๊ก!!
เราเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยใน The United States of America (USA) ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ
บริการฟรีทุกขั้นตอน Tel. 02 129 3214, 02 129 3215 สมัครเรียน สมัครหอพักของมหาวิทยาลัย จองตั๋วเครื่องบิน รถรับ-ส่งสนามบิน รวมถึงเตรียมเอกสาร กรอกใบสมัคร On-line และทำการนัดหมายกับสถานฑูตอเมริกา ให้ฟรี